การออกแบบอาคารหรือบ้าน นอกจาก ประตูรั้วหน้าบ้าน ราวกันตกระเบียง ระแนงตกแต่ง สี กำแพง ประตูและการตกแต่งอีกหลายอย่าง นอกจากเรื่องของความปลอดภัยแล้ว สิ่งเหล่านี้จะถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดความสวยงามตรงตามความต้องการของเจ้าของ แล้วจะมีอะไรอีกบ้างที่จะเป็นส่วนเติมเต็มหรือเป็นเหมือนใบหน้าของอาคารหรือบ้านของเรา? ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ ฟาซาด (Facade) หรือเปลือกอาคาร ว่า ฟาซาด คือ? มีหน้าที่อะไรบ้าง? แล้วการเลือกฟาซาด ควรเลือกวัสดุแบบไหนที่เหมาะกับบ้านหรือความต้องการของเรา? Alufence มีคำตอบ ฟาซาด คือ? ฟาซาด คือ ด้านหน้าอาคาร ด้านนอกอาคาร หรือองค์ประกอบบริเวณหน้าอาคาร  ในเชิงสภาพแวดล้อม ฟาซาดจะให้ความหมายด้านการเป็นเกราะให้กับบ้าน ป้องกันสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ฝน ลม หรือแสงแดด ส่วนในทางสถาปัตยกรรม ฟาซาดคือรูปลักษณ์ภายนอกของอาคาร ไม่ว่าจะเป็นกันสาด หน้าต่าง หลังคา ระเบียง ประตู รวมถึงการออกแบบต่าง ๆ เพื่อให้อาคารมีเอกลักษณ์ ดึงดูดสายตาและให้ความสวยงามกับอาคารได้มากขึ้น ฟาซาด มีหน้าที่อะไรบ้าง? ฟาซาด คือรูปลักษณ์ภายนอกอาคารอย่างหนึ่งที่มีหน้าที่และประโยชน์หลายอย่างด้วยกัน ซึ่งสามารถอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ได้ดังนี้ ให้รูปลักษณ์ที่สวยงาม เพราะด้านหน้าอาคารมักเป็นส่วนที่มองเห็นได้ชัดที่สุด เลยเป็นองค์ประกอบหลักทางสถาปัตยกรรมที่มีส่วนสร้างความประทับใจให้กับคนเดินผ่านไปมา ให้เห็นเอกลักษณ์ของอาคาร ป้องกันสภาพอากาศ ฟาซาดจะทำหน้าที่ปกป้องภายในอาคารจากสิ่งแวดล้อม เช่น ฝน ลม แดด และฟาซาดจะถูกออกแบบมาให้ทนทานกับสภาพอากาศ ป้องกันการแทรกซึมของน้ำและความเสียหายจากสภาพอากาศอื่น ๆ ช่วยระบายอากาศหรือระบายความร้อน ทำให้บ้านเย็นขึ้น หรือทำให้บ้านอุ่นลงในฤดูหนาวได้ จำกัดแสงแดดที่เข้ามาสู่อาคาร ซึ่งฟาซาดจะมีส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่าง ระแนง หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ลดมลภาวะทางเสียงได้ไม่มากก็น้อย  ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้ในการทำฟาซาด ฟาซาด วัสดุแบบไหนที่น่าลงทุน? ฟาซาด คือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องการตกแต่งอาคารให้สวยงามและตอบโจทย์ในเรื่องของสภาพแวดล้อมรวมถึงความปลอดภัย อีกอย่างหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือการเลือกใช้วัสดุในการทำฟาซาด ซึ่งวัสดุต่าง ๆ ที่นำมาใช้ก็มีหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งเราขอแนะนำดังนี้ 1. ฟาซาดอลูมิเนียม จุดเด่นของฟาซาดอลูมิเนียม จะมีด้วยกันดังนี้ มีน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับเหล็กแบบอื่น ทำให้สามารถติดตั้งได้ง่าย มีความทนทานสูง ทนต่อการกัดกร่อน ทนต่อสภาพแวดล้อม เหมาะใช้งานระยะยาว ค่อนข้างยืดหยุ่น ดัดแปลงเป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้เยอะ ดีไซน์ได้หลายรูปแบบ ดูโมเดิร์น ดูสะอาด เหมาะกับสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อย เมื่อเทียบกับฟาซาดแบบไม้หรือเหล็กชนิดอื่น 2. ไม้ ฟาซาดแบบไม้ จะช่วยเพิ่มคาแรคเตอร์ที่ทำให้อาคารของเราดูอบอุ่น และสามารถนำไปประยุกต์ได้หลายสไตล์ ตั้งแต่สไตล์แบบโบราณดั้งเดิมไปจนถึงโมเดิร์น แต่ข้อเสียอาจอยู่ที่ความทนทานอาจมีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอลูมิเนียม และค่อนข้างเป็นมิตรกับแมลง 3. ไฟเบอร์ซีเมนต์ ไฟเบอร์ซีเมนต์จะค่อนข้างมีความทนทานสูง ให้ความรู้สึกเหมือนกับไม้และแปลงได้หลายรูปแบบ ทนทานต่อแมลงและความชื้น แต่เป็นวัสดุที่มีราคาค่อนข้างสูง ใช้เวลาในการติดตั้ง ต้องบำรุงบ่อย และมีน้ำหนักมาก 4. คอนกรีต ฟาซาดแบบคอนกรีต มักจะใช้ในสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ดัดแปลงได้หลายรูปร่าง แต่เป็นวัสดุที่ค่อนข้างมีน้ำหนักมาก อาจร้าวหรือแตกได้เมื่อใช้ไปนาน ๆ เลยจำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อยกว่าวัสดุอลูมิเนียม 5. เซรามิค เซรามิค เป็นวัสดุที่ใช้หลากหลาย ทั้งกระเบื้อง รวมถึงใช้ทำฟาซาดด้วยเช่นกัน เป็นวัสดุที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม แต่ก็มีข้อเสียตรงแตกง่าย ราคาสูง การติดตั้งยุ่งยาก มีน้ำหนักค่อนข้างมาก นาน ๆ สีอาจลอกได้เมื่อโดนแสงแดดไปนาน ๆ   ฟาซาด คือส่วนเติมเต็มให้กับอาคารเพื่อเพิ่มความสวยงามและตอบสนองทางด้านดีไซน์สำหรับอาคารตามความต้องการ ซึ่งทางเราแนะนำ ฟาซาดอลูมิเนียม ที่มีข้อดีตั้งแต่มีความทนทานสูง มีน้ำหนักเบา และตอบสนองดีไซน์แบบโมเดิร์น

ประตูรั้วหน้าบ้านแบบไหนดีที่จะเหมาะกับบ้านของเรา? ปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นตัวตัดสินใจ เช่น ความคงทน น้ำหนัก วัสดุ การติดตั้ง ดีไซน์ รวมถึงราคาและการบำรุงรักษา ถ้าหากถามว่าประตูรั้วหน้าบ้านประเภทไหนที่สามารถตอบโจทย์เราได้ดีที่สุด ก็คงอยู่ที่ดีไซน์ของบ้านและความชอบส่วนตัวด้วยเช่นกัน ถ้าหากถามถึงประตูรั้วบ้านที่ดีที่สุดสำหรับเรา เราขอแนะนำ ประตูรั้วอลูมิเนียม ที่เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับมันว่าต่างจากประตูรั้วแบบอื่นอย่างไร แข็งแรงกว่าไหม? ประตูรั้วอลูมิเนียม คืออะไร? ประตูรั้วอลูมิเนียม ทำมาจากอลูมิเนียมที่เป็นวัสดุขนาดเบาและเป็นโลหะที่มีความทนทานสูง มักจะใช้ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม สำหรับทางเข้า-ออก สามารถปรับแต่งรูปร่างของประตูรั้วได้หลากหลายรูปแบบ สามารถทาสีได้หลายสี และเหล็กอลูมิเนียมสามารถขึ้นรูปเป็นลวดลายต่าง ๆ ได้ หรือจะออกแบบเรียบง่ายเพื่อให้ดูโมเดิร์นได้ด้วยเช่นกัน ประตูรั้วอลูมิเนียม มีข้อดีแตกต่างจากประตูรั้วแบบอื่นอย่างไร? ข้อดีของประตูรั้วอลูมิเนียม เมื่อเทียบกับประตูรั้วแบบอื่น ๆ อย่างประตูรั้วเหล็กดัด เหล็กฉีก ประตูรั้วไม้ ประตูรั้วไวนิล และประตูรั้วแบบอื่น ๆ ประตูรั้วแบบอลูมิเนียมจะมีข้อได้เปรียบหรือข้อดีต่าง ๆ ดังนี้ 1. ทนทานต่อการกัดกร่อนหรือทนต่อการขึ้นสนิม อลูมิเนียมจะเป็นวัสดุที่ก่อตัวเป็นชั้นออกไซด์บนพื้นผิว ซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งที่ช่วยป้องกันการถูกกัดกร่อน โดยเฉพาะกับความทนทานต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ต่างจากประตูเหล็กหรือเหล็กดัดที่อาจเกิดสนิมได้เมื่อเวลาไปผ่านไป ทำให้อลูมิเนียมเป็นวัสดุน่าเลือกใช้อย่างมากในการติดตั้งเป็นประตูรั้วหรือรั้วภายนอก และอีกทั้งยังทนการกัดกร่อนได้หลายปีด้วยเช่นกัน 2. มีน้ำหนักเบา หากเปรียบเทียบกับประตูรั้วเหล็ก เหล็กกล้า หรือประตูแบบอื่น ๆ ที่มีน้ำหนักสูง ประตูแบบอลูมิเนียมจะมีน้ำหนักที่เบากว่า ทำให้เป็นประเภทวัสดุที่ง่ายต่อการติดตั้ง ปรับรูปแบบ และเหมาะกับระบบประตูอัตโนมัติด้วยเช่นกัน 3. แข็งแรง ทนทาน แม้ว่าประตูรั้วอลูมิเนียมจะเป็นประตูที่มีน้ำหนักเบา แต่ก็เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงสูงด้วยเช่นกัน อย่างประตูรั้วของเราจะถูกออกแบบมาเพื่อความแข็งแรงในทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมมาตรฐานการผลิตจากออสเตรเลีย ทำให้มั่นใจได้ถึงความทนทานต่อการโค้งงอหรือแตกหักในระยะยาวได้เลย นอกจากนี้เป็นปัจจัยหนึ่งเกี่ยวกับด้านความปลอดภัยด้วยเช่นกันเพราะเรื่องของความแข็งแรงนั่นเอง 4. มีอายุการใช้งานนานกว่า ประตูรั้วแบบอลูมิเนียมจะทนต่อการสึกหรอจากสิ่งแวดล้อมได้หลายรูปแบบ ทั้งสนิม การเน่าเปื่อย รวมถึงจากแมลงชนิดต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูประตูรั้วของเรา เมื่อเทียบกับไม้หรือเหล็กที่เสื่อมสภาพไวกว่า ก็หมายความว่าประตูแบบอลูมิเนียมจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า 5. ปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ อลูมิเนียมเป็นเหล็กรูปแบบหนึ่งที่เปลี่ยนรูปร่างได้ รวมถึงสามารถนำไปหลอม เปลี่ยนสีได้เช่นกัน และการทำสีหรือ Powder coating จะทำให้สามารถปรับแต่งสีได้หลากหลาย ทำเลียนแบบเป็นสีไม้ได้ ปรับแต่งให้เหมาะกับบ้านและความต้องการส่วนตัวได้สบาย ๆ 6. ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อย ประตูรั้วแบบอลูมิเนียม นาน ๆ ครั้งถึงจะต้องบำรุงรักษา หรือไม่จำเป็นต้องทำสีใหม่หรือขัดสนิมบ่อย ๆ ต่างจากประตูรั้วแบบเหล็ก และอลูมิเนียมก็เป็นวัสดุอย่างหนึ่งที่ทนต่อการหักงอหรือสึกหรอง่ายเมื่อเทียบกับประตูรั้วแบบไม้ ประตูรั้วอลูมิเนียม แข็งแรงกว่าไหม? แม้ว่าประตูรั้วแบบอลูมิเนียมจะไม่ได้แข็งแรงเท่าประตูเหล็ก อย่างไรก็ตาม เมื่อประตูรั้วทำจากอลูมิเนียมหนาที่มีคุณภาพการผลิตสูง จะมีความแข็งแรงพอ ๆ กับประตูแบบเหล็ก และเหมาะกับการใช้งานในที่พักอาศัยรวมถึงอาคารขนาดเล็กต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน Alufence ผู้นำเข้าประตูรั้วอลูมิเนียมจากประเทศออสเตรเลีย Alufence เป็นผู้นำเข้านวัตกรรมประตูรั้วอลูมิเนียมจากประเทศออสเตรเลีย สะสมประสบการณ์ในด้านอลูมิเนียมมากกว่า 10 ปี เราผลิตรั้วอลูมิเนียมจากอลูมิเนียมระดับคุณภาพ มีมาตรฐาน รวมถึงมีกระบวนการทำสี Powder coating ที่เป็นสีลายไม้นำเข้าจากอิตาลี การันตีในเรื่องของคุณภาพ ทนแดด ทนฝนนาน 10 ปี พร้อมดีไซน์รั้วบ้านให้เหมาะกับบ้านของท่าน ใส่ใจในเรื่องของความคงทนและแข็งแรง

ประตูรั้วหน้าบ้าน นอกจากจะทำหน้าที่ในเรื่องของความปลอดภัยแล้ว ก็เป็นเหมือนจุดสนใจจุดแรกของบ้านได้เช่นกัน ทำให้การดีไซน์ประตูรั้วที่สวยงามเหมาะกับบ้าน เป็นสิ่งหนึ่งที่เรามองหา ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับการ ออกแบบประตูรั้วหน้าบ้าน ว่าใช้วัสดุอะไรดี ใช้บานเลื่อนแบบไหน ดีไซน์แบบไหน ที่จะตอบโจทย์กับเรามากที่สุด? เรามีคำตอบ ออกแบบประตูรั้วหน้าบ้าน วัสดุแบบไหนที่ตอบโจทย์? การเลือกวัสดุในการออกแบบประตูรั้ว นอกจากจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของดีไซน์แล้ว แต่ละวัสดุก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เราขอแนะนำวัสดุยอดนิยมที่เหมาะกับการออกแบบประตูรั้วหน้าบ้าน ดังนี้ ประตูรั้วอลูมิเนียม  เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทานสูง ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อย ไม่เป็นสนิม สามารถ coat สีได้และสีติดทนนาน สามารถปรับแต่งได้ในรูปแบบที่ซับซ้อนและเหมาะกับสไตล์โมเดิร์น ประตูรั้วไม้  เป็นตัวเลือกวัสดุที่ให้ความรู้สึกธรรมชาติ เหมาะกับบ้านที่มีต้นไม้เยอะ เป็นวัสดุที่ต้องบำรุงรักษาบ่อย อาจแตกร้าวได้ในสภาพอากาศที่แปรปรวน ประตูรั้วเหล็กดัด  สามารถดัดเหล็กให้อ่อนและขึ้นออกแบบได้หลากหลาย แต่สามารถเกิดสนิมได้หากไม่ได้เคลือบหรือไม่ได้บำรุงรักษา ประตูรั้วเหล็กฉีก  หรืออธิบายง่าย ๆ คือเป็นประตูเหล็กสาน เหมาะสำหรับคนที่มองถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ออกแบบดีไซน์ไม่ได้มากนัก ประตูรั้วไวนิล  ค่อนข้างทนต่อการสึกหรอ ไม่ต้องบำรุงรักษาเยอะ มีน้ำหนักเบา แต่เมื่อผ่านไปนาน ๆ วัสดุอาจแตกหรือเปราะลง ออกแบบประตูรั้วหน้าบ้าน ใช้บานแบบไหนดี? การเลือกบานประตูรั้วหน้าบ้านก็สำคัญต่อการออกแบบประตูรั้วบ้านเช่นกัน ซึ่งตัวเลือกบานประตูรั้วจะมีให้เลือกหลากหลายด้วยกัน ดังนี้ บานเลื่อนเดี่ยว  ประตูบานเดียว เป็นบานเลื่อนที่ค่อนข้างประหยัดพื้นที่ สามารถติดตั้งมอเตอร์ประตูอัตโนมัติได้ ออกแบบได้หลากหลาย บานเลื่อนคู่  สามารถเลื่อนเปิดปิดได้สองด้าน ลดพื้นที่ที่ต้องใช้ด้านข้างและเปิดแค่ฝั่งเดียวได้ สามารถติดตั้งระบบประตูอัตโนมัติได้เช่นกัน บานเลื่อน 3 บาน  สามารถเปิดได้บางส่วนหรือเปิดได้ทั้งหมดเหมือนบานเลื่อนเดี่ยว เหมาะสำหรับพื้นที่ทางเข้ากว้าง ๆ สามารถเลื่อนซ้อนทับกันได้ และติดตั้งระบบประตูอัตโนมัติได้ บานเลื่อนเดี่ยวกับบานเปิด  ติดตั้งบานเปิดข้าง ๆ บานเลื่อนเดี่ยวเพื่อเป็นทางสำหรับการเดินเข้า-ออกบ้านที่สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเปิดบานเดี่ยวทั้งหมด บานเปิดในบานเลื่อนเดี่ยว  ติดตั้งบานเลื่อนเดี่ยวและบานเปิดเข้าด้วยกัน บานเลื่อนโค้งเก็บข้าง  เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ด้านข้างยื่นออกมา บานเฟี้ยม  จะมีลักษณะเป็นบานพับประตูเข้าหากัน ช่วยลดพื้นที่ เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก  มีความยืดหยุ่น เหมาะกับสไตล์ทุกสไตล์ บานเปิดคู่  เป็นประตูรั้วที่มีลักษณะเปิดแบบพับเข้าหากันในสองทิศทาง เปิดปิดได้ง่าย ออกแบบได้หลากหลายสไตล์ ออกแบบประตูรั้วหน้าบ้าน ดีไซน์แบบไหนที่ชอบ? ดีไซน์สำหรับการออกแบบประตูรั้วหน้าบ้าน เรามีตัวอย่างมาให้เลือกด้วยกันหลากหลายแบบเลย ซึ่งแบบประตูรั้วหน้าบ้านที่เราแนะนำ จะมีด้วยกันดังนี้ 1. Thin Design เป็นสไตล์ที่ให้ความโปร่งโล่ง ดีไซน์ด้วยอลูมิเนียมแบบไขว้หน้าโชว์เรียงกันเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน เว้นระยะเท่า ๆ กัน 2. Random Design ให้ความโปร่งโล่ง สามารถมองลอดผ่านได้ ลมผ่านได้ง่าย ดีไซน์ด้วยอลูมิเนียมสลับหน้าโชว์ด้วยระยะกว้าง 2 นิ้ว โชว์หน้าแคบ 1 นิ้วสลับกันจนสุด 3. Barcode Design สลับหน้าโชว์กว้าง 4 นิ้ว 2 นิ้ว และ 1 นิ้วเหมือนบาร์โค้ด ซึ่งสามารถวางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ให้ความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง สามารถติดตั้งกับประตูทางเดินเข้าได้ 4. Black Design ให้ความทันสมัยด้วยสีดำที่เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์น ปิดทึบให้ความเป็นส่วนตัว ด้วยอลูมิเนียมหน้าโชว์ 4 นิ้วเรียงต่อกันเป็นแนวตั้ง สามารถทำประตูบานเปิดในบานเลื่อนได้เช่นกัน 5. Standard Design เป็นดีไซน์ที่ให้ความเป็นระเบียบเรียบร้อยเท่า ๆ กัน ดูโปร่งโล่ง ลมผ่านง่าย ด้วยหน้าโชว์กว้าง 4 นิ้วเรียงกันจนสุดความยาว วางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เว้นระยะห่างเท่ากัน 6. Switch Design เป็นรูปแบบสลับหน้าโชว์หน้ากว้าง 4 นิ้วและโชว์หน้าแคบสลับกันจนสุดความยาว สร้างมิติในการมอง ดีไซน์ดูทันสมัยและให้ความเป็นส่วนตัว 7. Crossline Design เป็นการออกแบบประตูรั้วอลูมิเนียมโดยการสลับหน้าโชว์กว้าง 4 นิ้ว แบ่งออกเป็น 3 Layer สลับกัน เพิ่มมิติให้กับประตูรั้วได้เป็นอย่างดี 8. Lighting Design เป็นดีไซน์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวบวกความทันสมัยเข้าด้วยกัน แต่ก็มีช่องสำหรับการมองเห็นจากภายนอก รูปแบบสลับหน้าโชว์กว้างและแคบผสมผสานกัน เพิ่มมิติมากยิ่งขึ้น 9. Twin Design ใช้อลูมิเนียมหน้าโชว์ 4 นิ้วต่อกับ 1 นิ้วและต่อด้วย 4 นิ้วอีกครั้งบวกกับการเว้นระยะร่วมด้วยสลับกันไป เพิ่มความทันสมัยสลับซับซ้อน 10. Piano Design เป็นดีไซน์แบบสูงต่ำคล้ายกับเปียโน มีความโปร่งโล่งลมผ่านได้ง่าย โชว์หน้าแคบประมาณ 25 มิลลิเมตร เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นและแบบร่วมสมัย 11. Melody Design ลักษณะเรียงสลับกันเป็นลาย มีความโปร่งโล่งและลมผ่านได้ง่าย โชว์กว้าง 4 นิ้ว ลวดลายสลับไม่เท่ากัน ให้ความรู้สึกโมเดิร์น 12. Triple Through Design เป็นอลูมิเนียมหน้าโชว์ 2 และ 4 นิ้ว เรียงต่อกันเป็นแนวตั้ง เน้นความโปร่งโล่งและการระบายอากาศ ไม่ใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว ดีไซน์ดูทันสมัยและแปลกตา 13. Railroad Design มีลักษณะคล้ายรางรถ ด้วยดีไซน์แบบเปิดโล่งทำให้สามารถระบายอากาศเข้า-ออกบ้านได้ดี ดูทันสมัย เป็นวัสดุอลูมิเนียมหน้าโชว์ 1 นิ้วเรียงต่อกันเป็นแนวตั้งและแนวนอน 14. Louver Gate Design ดีไซน์สุดล้ำ ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่ระแนงของรั้วประตูบ้านสามารถเปิด-ปิดได้ ทำให้ควบคุมความเป็นส่วนตัวได้อย่างดี เหมาะกับสไตล์โมเดิร์นมาก ๆ 15. Z-gate Design เป็นดีไซน์ที่ให้ความเป็นส่วนตัวโดยที่ไม่รู้สึกอึดอัด มีเอกลักษณ์เฉพาะที่สามารถปรับเปลี่ยนสีของประตูรั้วด้านหน้าและด้านหลังได้ตามใจชอบ เข้ากับบ้านสไตล์คลาสสิคและโมเดิร์นได้อย่างลงตัว 16. Stripe Design หากพูดถึงอะไรที่ธรรมดาแต่ดูโดดเด่น สไตล์ประตูบ้านแบบ Stripe จะเป็นคำตอบที่ดี ด้วยเฟรมที่ออกแบบมาให้มีความผอมเรียวต่อกัน ทำให้ตัวบ้านและบรรยากาศของโดยรอบดูโดดเด่นขึ้นมา   ติดตั้งประตูรั้วหน้าบ้าน Alufence เพราะการออกแบบประตูรั้วหน้าบ้านให้เหมาะกับบ้านเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง เพื่อสร้างความประทับใจแรกและทำให้บ้านของเราดูโดดเด่นมีดีไซน์ ซึ่งเรา Alufence รับออกแบบและติดตั้งประตูรั้วอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมีดีไซน์หลากหลายที่เหมาะกับบ้านของคุณ

บริเวณระเบียง เป็นพื้นที่หนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ทำให้จำเป็นต้องมีอะไรบางอย่างป้องกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีบ้านหลายชั้นที่มีระเบียง แล้วอะไรจะมาทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุได้? ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ ราวกันตกระเบียง ซึ่งจำเป็นอย่างมากต่อความปลอดภัย รวมถึงเป็นการออกแบบเพื่อความสวยงามให้กับบ้านได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งวัสดุของราวกันตกก็มีหลายอย่าง เราจะมาแนะนำแบบต่าง ๆ ว่าเลือกแบบไหนดีให้ได้ทั้งความปลอดภัยและสวยงาม ราวกันตกระเบียง คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ? ราวกันตกระเบียง จะเป็นฉากกั้นที่ติดตั้งไว้บริเวณขอบระเบียงเพื่อป้องกันไม่ให้คนพลัดตก ซึ่งเป็นหน้าที่หลักอย่างหนึ่งของราวกันตก นอกจากเรื่องของความปลอดภัยแล้ว การติดตั้งราวกันตกจะตอบสนองต่อจุดประสงค์ด้านความสวยงามหรือความดึงดูดสายตาของอาคารหรือบ้านด้วยเช่นกัน ขึ้นอยู่กับการตกแต่งบ้าน สไตล์ของบ้าน สถาปัตยกรรมของโครงสร้าง รวมถึงความชอบส่วนตัวด้วยเช่นกัน ราวกันตกระเบียง เลือกวัสดุแบบไหนให้ได้ทั้งความปลอดภัยและสวยงาม วัสดุของราวกันตกระเบียงจะมีให้เลือกด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ในบทความนี้ เราก็จะอธิบายเกี่ยวกับวัสดุต่าง ๆ รวมถึงข้อดีต่าง ๆ ที่ช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น H3 : 1. ราวกันตกอลูมิเนียม สำหรับราวกันตกแบบอลูมิเนียม จะมีข้อดีคือ มีน้ำหนักที่เบา ทนทานต่อการเกิดสนิมหรือการสึกหรอ ไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมบำรุงบ่อย ๆ  โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสภาพอากาศที่แปรปรวน อีกทั้งยังสามารถทำสีแบบ Power coating ได้หลากหลายสีและทำให้ความคงทนมีมากขึ้น เหมาะสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์นหรือสายมินิมอล H3 : 2. เหล็กสแตนเลส เหล็กสแตนเลสเป็นเหล็กที่แข็งแรง มีความเงางาม ดูสะอาดและดูมีความเป็นสไตล์แบบโมเดิร์น สามารถผสมผสานเข้ากับวัสดุแบบอื่นได้เช่นกระจกหรือเคเบิล แต่ข้อเสียอาจมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวัสดุรูปแบบอื่น และต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ เพื่อให้ดูเงางาม เหมาะกับสไตล์โมเดิร์นหรือสไตล์เชิงอุตสาหกรรม H3 : 3. เหล็กดัด การใช้เหล็กดัดเป็นราวกันตก จะเป็นวัสดุที่สามารถประยุกต์รูปร่างได้หลากหลาย สามารถออกแบบให้ออกมาได้ทั้งความคลาสสิคหรือสไตล์แบบโมเดิร์น อย่างไรก็ตาม เหล็กดัดจะเป็นเหล็กประเภทหนึ่งที่ต้องมีการบำรุงรักษาบ่อยเพื่อป้องกันการกัดกร่อนหรือป้องกันสนิม โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เหมาะกับสไตล์ดั้งเดิมหรือสไตล์ที่เน้นความหรูหราเป็นพิเศษ H3 : 4. กระจก ราวกันตกแบบกระจกจะถูกออกแบบมาเพื่อการชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่มีอะไรบัง มักใช้ร่วมกับโครงสร้างวัสดุที่เป็นอลูมิเนียมหรือสแตนเลส เพื่อให้ดูมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ข้อเสียคือต้องทำความสะอาดและบำรุงบ่อย และต้องใช้กระจกคุณภาพด้านความปลอดภัยอย่างกระจกนิรภัยหรือลามิเนต H3 : 5. ไม้ วัสดุที่เป็นไม้จะให้ความเป็นธรรมชาติ ดูอบอุ่น และสามารถเข้ากับสถาปัตยกรรมได้หลากหลายรูปแบบโดยเฉพาะแบบคลาสสิค แต่เป็นวัสดุอย่างหนึ่งที่ต้องมีการบำรุงรักษาอยู่เป็นประจำเพื่อป้องกันไม้เปื่อยหรือปัญหาปลวก โดยเฉพาะการเป็นวัสดุของราวกันตกระเบียง แต่ถ้าหากดูแลดีก็ใช้ได้ยาว ๆ ได้เช่นกัน H3 : 6. ไวนิล ไวนิลหรือ PVC เป็นวัสดุที่ราคาไม่แรง แถมยังคงทนต่อสภาพอากาศและไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อย ๆ และเป็นวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย มีหลากหลายสีหลากหลายสไตล์ให้เลือก อย่างไรก็ตาม วัสดุประเภทนี้อาจไม่คงทนเมื่อเทียบกับอลูมิเนียม เหล็ก หรือไม้ H3 : 7. เคเบิล ราวกันแตกแบบเคเบิลจะให้ความรู้สึกแบบมินิมอล มักจะใช้ร่วมกับวัสดุอย่างอลูมิเนียมหรือโครงเหล็ก มักให้ความรู้สึกคล้าย ๆ แบบกระจกแต่มีความเป็นอุตสาหกรรมหรือมินิมอลมากกว่า แต่เคเบิลอาจเสื่อมและหลวมลงเมื่อใช้ไปนาน ๆ ทำให้ต้องมีการบำรุงรักษาอยู่บ้างเช่นกัน เหมาะกับสไตล์แบบโมเดิร์นหรือมินิมอล H3 : 8. คอนกรีตหรือหิน ราวกันตกระเบียงแบบคอนกรีตหรือหินจะมีความทนทานสูงและบำรุงรักษาไม่มาก แข็งแรงและสามารถตกแต่งได้หลากหลาย มักจะใช้ในสไตล์แบบดั้งเดิมหรือสไตล์ยุโรป แต่ข้อเสียก็มี คือเป็นวัสดุที่ค่อนข้างหนักและลำบากในการติดตั้ง รวมถึงมีราคาค่าใช้จ่ายที่สูงด้วยเช่นกัน   ราวกันตกระเบียงวัสดุต่าง ๆ มีหลายแบบให้เลือก แต่ถ้าถามความคิดเห็นของ ALUFENCE ราวกันตกแบบอลูมิเนียมจะมีคุณลักษณะต่าง ๆ ที่โดดเด่นมากกว่า เพราะเป็นวัสดุที่เบา ทนทาน ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อย ซึ่งทางเราจะใช้วัสดุอลูมิเนียมคุณภาพจากออสเตรเลียรวมถึงมีบริการ Powder coating ทำสีที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมยาวนานถึง 10 ปี และพร้อมแนะนำการดีไซน์รูปแบบต่าง ๆ ทั้งแบบซี่ระแนง แบบกระจก รวมถึงมีการเก็บงานเรียบร้อย มีให้เลือกสีหลากหลายสีด้วยกัน

การเลือก ประตูรั้วหน้าบ้าน ให้เหมาะกับบ้านและตรงกับใจ เป็นสิ่งสำคัญเพราะประตูรั้วหน้าบ้านจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย การบำรุงรักษา ความสวยงาม รวมถึงงบประมาณที่เราพอใจที่จะจ่าย ซึ่งประตูรั้วหน้าบ้านก็มีด้วยกันหลายแบบให้เราได้เลือก ในบทความนี้ เราจะมาให้คำแนะนำว่า ประตูรั้วหน้าบ้านแบบไหนดี แบบไหนที่เราชอบ แต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร แล้วจะมีวิธีการเลือกอย่างไรให้เหมาะกับบ้านของเรา? เรามีคำตอบมาให้ ประตูรั้วหน้าบ้านแบบไหนดี? 7 แบบยอดนิยม ทั้งโมเดิร์นและคลาสสิค การจะเลือกประตูรั้วหน้าบ้าน ต้องคำนึงถึงหลาย ๆ ปัจจัย ทั้งในเรื่องของน้ำหนัก การติดตั้ง ความทนทาน ดีไซน์ การปรับแต่ง ราคา รวมถึงการบำรุงรักษา ซึ่งประตูทุกแบบก็ไม่ได้มีความเพอร์เฟคไปทุกเรื่อง แต่เราขออธิบายประตูรั้วแบบต่าง ๆ ประตูรั้วหน้าบ้านแบบไหนดี? ดังนี้ 1. ประตูรั้วอลูมิเนียม ประตูรั้วอลูมิเนียม เป็นประตูรั้วที่ ขึ้นชื่อในเรื่องของความเบา  เมื่อเทียบกับประตูรั้วเหล็กดัดและประตูรั้วเหล็ก ทำให้เป็นประเภทประตูรั้วที่ ติดตั้งได้ง่าย  เหมาะกับการติดตั้ง ทั้งแบบเปิดด้วยมือหรือประตูอัตโนมัติ  และประตูรั้วอลูมิเนียมก็เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน กันสนิม  เลยเป็นตัวเลือกที่ดีในระยะยาว ไม่จำเป็นต้องซ่อมบ่อย สามารถใช้ในสไตล์บ้านแนว โมเดิร์น ได้อย่างเหมาะเจาะ ทันสมัย เรียบง่าย รวมถึงมีความทนทานสำหรับใช้ในที่พักอาศัย 2. ประตูรั้วเหล็กดัด ประตูรั้วเหล็กดัด จะมีความแข็งแรงสูงและมีความทนทานในระดับหนึ่ง เป็นตัวเลือกปัจจัยทางด้านความปลอดภัยเป็นหลัก เหล็กดัดที่ว่านี้สามารถดัดอ่อนได้ด้วยความร้อน ขึ้นรูปออกแบบที่ซับซ้อนได้  ทำให้เหมาะสมเป็นประตูประดับ แต่ เหล็กดัดสามารถเกิดสนิมได้เมื่อไม่ได้รับการเคลือบหรือเวลาผ่านไปนาน ทำให้ต้องมีการบำรุงรักษาอยู่บ่อย ๆ และต้องทำความสะอาดเป็นประจำ 3. ประตูรั้วเหล็ก ประตูรั้วที่ทำโดยวัสดุที่เป็นเหล็กจะมีความ แข็งแรงและทนทาน  แต่ถ้าเกิดการกระแทกแรง ๆ ก็อาจทำให้บุบได้เช่นกัน อธิบายง่าย ๆ คือ รั้วเหล็กจะอ่อนตัวได้ยากกว่าเหล็กดัด แต่ทนทานมากกว่า และเช่นเดียวกับเหล็กดัด ประตูรั้วเหล็กจะเกิดสนิมได้ง่าย หากไม่ได้ดูแลหรือบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง และรั้วเหล็กเองจะเป็นวัสดุที่ค่อนข้างหนัก ซึ่ง เหมาะมากเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย  และรูปลักษณ์ของรั้วประเภทนี้มักจะดูโมเดิร์น ดูสะอาด 4. ประตูรั้วไม้ ประตูรั้วไม้จะ ให้ความรู้สึกแบบคลาสสิค  ดูบอุ่นและเข้ากับสถาปัตยกรรมด้านต่าง ๆ ได้อย่างกลมกลืน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงาม คลาสสิค เป็นธรรมชาติและรับมือกับการซ่อมแซมบำรุงรักษาได้ เพราะ ประตูรั้วไม้จะมีแนวโน้มที่จะเปื่อย เบี้ยว หรือพบปัญหาสาเหตุจากแมลงได้ หากไม่บำรุงรักษาบ่อย ๆ หรืออาจทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อยกว่าประตูรั้วแบบอื่นด้วยเช่นกัน ประตูรั้วหน้าบ้านแบบไหนดีที่เหมาะกับคนรักความคลาสสิค ประตูรั้วไม้อาจเป็นคำตอบที่ดี 5. ประตูรั้วไวนิล ไวนิล เป็นวัสดุที่ ทนทานต่อการสึกหรอ  ทั้งจากการเน่าเปื่อย ความชื้น และทนต่อแมลง ทำให้เป็นวัสดุที่ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาเยอะเท่าวัสดุประตูรั้วแบบอื่น ๆ รวมถึง มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา  ทำให้ติดตั้งได้ง่าย รวมถึงมีราคาที่ไม่แรง ดูโมเดิร์น รักษาทำความสะอาดได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ไวนิลอาจแตกหรือเปราะลงเมื่อเวลาผ่านไป  โดยเฉพาะช่วงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย 6. ประตูรั้วเหล็กฉีก ประตูรั้วเหล็กฉีกเป็นประตูรั้วที่ แข็งแรง ราคาถูก  ออกแบบโดยการนำเอาเหล็กมาสานเข้าด้วยกัน แต่ไม่ได้ถูกออกแบบมาในเรื่องของความสวยงามหรือความเป็นส่วนตัว มักจะมีการชุบสังกะสีเพื่อป้องกันสนิม เหมาะสำหรับคนที่มองในเรื่องของ ความปลอดภัยเป็นหลัก ความสวยเป็นรอง  มีความเรียบง่าย ไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมบ่อย 7. ประตูรั้วไฟเบอร์ซีเมนต์ ประตูรั้วไฟเบอร์ซีเมนต์ ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้งานแทนประตูไม้แบบ 100% มีความ ทนทานมากกว่าแบบไม้  ทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อย ทนต่อไฟมากกว่า และ สามารถออกแบบได้หลายรูปแบบตามที่ต้องการ  แต่เป็น วัสดุที่มีน้ำหนักมาก  ต้องใช้เวลาในการติดตั้ง และต้องมีวัสดุโครงสร้างที่แข็งแรงอย่างเช่นเหล็กหรืออลูมิเนียมเพื่อยึดแผงไฟเบอร์ซีเมนต์ ประตูรั้วหน้าบ้าน เลือกอย่างไรให้เหมาะกับบ้านของเรา? ตามที่ได้อธิบายไปข้างต้น ประตูรั้วหน้าบ้านแบบไหนดี ที่จะเหมาะกับเรา? ขออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ กันดังนี้ ในเรื่องของความปลอดภัย การเลือกใช้ประตูรั้วเหล็กดัด ประตูรั้วเหล็ก ประตูรั้วอลูมิเนียม เป็นประตูที่แข็งแรง หายห่วงในเรื่องของความปลอดภัย ในเรื่องของความเป็นส่วนตัว ประตูไม้กับประตูรั้วอลูมิเนียม จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง ในเรื่องของการซ่อมบำรุง การเลือกใช้ประตูรั้วอลูมิเนียม ประตูรั้วไวนิล ประตูรั้วเหล็กฉีก จะเป็นแบบประตูรั้วที่มีการซ่อมบำรุงน้อยกว่าแบบอื่น ๆ ในเรื่องของการติดตั้งระบบประตูรั้วอัตโนมัติ ประตูรั้วเหล็ก ประตูรั้วอลูมิเนียม และประตูไม้ จะเหมาะกับการติดตั้งระบบประตูรั้วอัตโนมัติมากกว่า ในเรื่องของความสวยงาม ประตูรั้วเหล็กดัดกับประตูรั้วไม้จะสามารถตกแต่ง ดัดแปลง และเหมาะกับความสวยงามมากกว่า ประตูรั้วหน้าบ้านแบบไหนดี? เรา ALUFENCE เป็นผู้นำเข้านวัตกรรมประตูรั้วอลูมิเนียมจากประเทศออสเตรเลีย มีประสบการณ์ด้านอลูมิเนียมกว่า 10 ปี ผลิตจากอลูมิเนียมคุณภาพ มีมาตรฐาน มอก. และมีสีลายไม้เป็นสีนำเข้าจากประเทศอิตาลี การันตีคุณภาพ สีไม่ลอก ทนแดด ทนฝนนานกว่า 10 ปีเต็ม